เอฟเอคัพ 2

“เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เดินหน้าคว้าแชมป์ที่ 2 ในฤดูกาลนี้หลังเป็นฝ่ายคว้าชัยเหนือ “อริร่วมเมือง” แมนฯ ยูไนเต็ด ไปได้ 2-1 ในการแข่งขัน ฟุตบอล เอฟเอคัพ ทำให้พวกเขายังอยู่ในเส้นทางลุ้น 3 แชมป์ในซีซั่นนี้ เราลองไปดูกันว่ามีประเด็นอะไรเกิดขึ้นในเกมนัดนี้บ้าง

  1. อิลคาย กุนโดกัน สร้างประวัติศาสตร์ในศึก เอฟเอคัพ

ลูกยิงของ อิลคาย กุนโดกัน ไม่เพียงแต่มีคุณภาพเท่านั้น แต่ยังทำลายสถิติอีกด้วย เนื่องจากนี่เป็นประตูที่เกิดขึ้นรวดเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์นัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ

สถิติก่อนหน้านี้เป็นของ หลุยส์ ซาฮา ซึ่งทำประตูให้ เอฟเวอร์ตัน หลังจากผ่านไปเพียง 25 วินาที ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อปี 2009

เมื่อพูดถึงการทำสถิติแล้วโดยปกติจะเป็นกองหน้าหรือปีก เพราะงั้นการที่กองกลางอย่าง กุนโดกัน ทำได้โดยเฉพาะในเกมสำคัญด้วยนั้นเป็นเรื่องที่น่าประทับใจไม่น้อย

มิดฟิลด์ชาวเยอรมันคว้าแมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากการเหมาคนเดียวสองประตูในเกมนี้ ด้วยสัญญาที่กำลังจะหมดลงในซัมเมอร์นี้ แมนฯ ซิตี้ จะต้องโน้มน้าวอย่างหนักเพื่อให้มิดฟิลด์ชาวเยอรมันขยายสัญญาเพิ่มออกไป

เอฟเอคัพ 1

  1. บรูโน่ เฟอร์นันเดส กับจุดโทษที่ยังไว้ใจได้เสมอใน เอฟเอคัพ

เมื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ย้ายออกไป ตอนนี้ บรูโน่ เฟอร์นันเดส เป็นจอมสังหารจุดโทษมือหนึ่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด เขายิงจุดโทษในฟุตบอลอาชีพครั้งที่ 48

จากความพยายามทั้งหมด 53 ครั้ง มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสพลาดไปเพียง 5 ครั้งเท่านั้น ครั้งนี้ บรูโน่ สังหารไม่ผิดพลาดเมื่อไปคนละทางกับ ออร์เตก้า

ประตูของ บรูโน่ ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับเข้าสู่เกมเนื่องจากพวกเขาเป็นรอง แมนฯ ซิตี้ อย่างเห็นได้ชัดในตอนนั้น อย่างไรก็ตาม ปีศาจแดงรักษาโมเมนตัมได้เพียง 18 นาที ก่อนโดน กุนโดกัน ยิงประตูที่สองในนาทีที่ 51

  1. แมนฯ ซิตี้ เข้าใกล้คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ เอฟเอคัพ

ชัยชนะเหนือคู่ปรับร่วมเมืองของ แมนฯ ซิตี้ ทำให้พวกเขาเข้าใกล้การคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ไปอีกขั้น

หลังจากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ตอนนี้ อินเตอร์ มิลาน เป็นอุปสรรคสุดท้ายที่กำลังขวางทาง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพื่อคว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมเดียวในอังกฤษที่คว้า 3 แชมป์ได้ในฤดูกาล 1998-99 ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

อย่างไรก็ตามตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสทาบสถิตินั้นเมื่อพวกเขาจะเดินทางไปยัง อตาเติร์ก โอลิมปิก สเตเดี้ยม ในกรุงอิสตันบูล สัปดาห์หน้าด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปยี่ยม

  1. จอห์น สโตนส์ เข้ากับแท็คติก เป๊ป อย่างแนบเนียน

จอห์น สโตนส์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในนัดชิงชนะเลิศ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษถูกหุบเข้าไปในแดนกลางเมื่อทีมเป็นฝ่ายครองบอล ซึ่งเขาจับคู่กับ โรดรี้ ได้แบบไม่เคอะเขินเลย

ที่จริง สโตนส์ ทำหน้าที่หลายบทบาท เขาถ่างออกไปเล่นเป็นแบ็กขวา และลงไปอยู่เซ็นเตอร์แบ็คจับคู่กับ รูเบน ดิอาส อีกด้วยเมื่อทีมต้องเป็นฝ่ายเล่นเกมรับ ทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่เป็นเดอะแบกเกมรุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด สร้างความอันตรายแทบไม่ออก

สโตนส์ ถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในนักเตะอันเดอร์เรทและมีผลงานที่พัฒนาขึ้นอย่างน่าประทับใจในฤดูกาลนี้ ส่วนหนึ่งต้องชม เป๊ป ด้วยที่จับแข้งวัย 29 ปี กลายเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ได้แบบนี้

  1. แนวทางของ เป๊ป ชนะเลิศ

นอกจากสองประตูที่ กุนโดกัน ยิงแล้ว แมนฯ ซิตี้ ต้องให้เครดิตอย่างมากกับ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ติดตั้งแท็คติกที่จับทางได้ยากและมีความยูนีค

เมื่อการเล่นเกมรุกพวกเขามีความรวดเร็วและหวือหวามาก ๆ โดยใช้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เป็นตัวพักบอล เกมนี้ แมนฯ ซิตี้ หาโอกาสยิงเข้าเป้าได้ถึง 5 ครั้ง และต้องชมความเฉียบคมของ กุนโดกัน ที่มักสอดขึ้นไปทำประตูได้บ่อยครั้งจากแท็คติกของ เป๊ป

ครั้นเมื่อต้องเล่นเกมรับ แมนฯ ซิตี้ บีบให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หาโอกาสยิงเข้ากรอบแค่ 3 ครั้ง โดยเฉพาะการทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด และ เจดอน ซานโช่ สร้างอิมแพ็คน้อยที่สุด

เป๊ป ยังตัดสินใจอย่างกล้าหาญในการให้โอกาส สเตฟาน ออร์เตก้า นายทวารมือสองยึดตัวจริงในเกมบอลถ้วย และเขามีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ แมนฯ ซิตี้ ไม่เสียประตูที่สองเมื่อปฏิเสธลูกยิงระยะเผาขนจาก ราฟาเอล วาราน ในช่วงท้ายครึ่งแรก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีมที่อยู่ในอันดับต้นๆของ KBO จะปะทะกันกลางสัปดาห์
พูลิซิช ปีกเชลซี ถูกยูเวนตุสเล็งคว้าตัว
นักเทนนิสชาวยูเครนปฏิเสธที่จะจับมือคู่ต่อสู้ชาวรัสเซีย
การ์เซีย ให้โอกาสโรนัลโด้แก้ตัวอีกหนึ่งเกมกับทีมฟุตบอลอัล นาสร์
ติดตามบทความอื่นๆได้ที่ https://www.jeremyhoyejewellery.com/

สนับสนุนโดย  ufabet369

ที่มา www.sanook.com