ฟุตบอลยูโร 2023 ยู-21 นัดชิงชนะเลิศ อังกฤษ-สเปน 1-0

เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด ผู้รักษาประตูกลายเป็นฮีโร่เซฟจุดโทษในช่วงทดเวลาบาดเจ็บส่ง อังกฤษ เอาชนะ สเปน 1-0 คว้าแชมป์ยูโร ยู-21 เป็นครั้งแรกในรอบ 39 ปี

ฟุตบอลยูโร 2023 ยู-21 นัดชิงชนะเลิศ อังกฤษ 1 – สเปน 0 สนาม : บาตูมี่ อารีน่า, จอร์เจีย

เริ่มเกมมา 5 นาที อังกฤษ ได้ลุ้นก่อน เมื่อ แอนโธนี่ กอร์ดอน ลากตัดจากด้านซ้ายเข้าในเขตโทษแล้วยิงด้วยขวา แต่ อาร์เนา เตนาส ยังเซฟไว้ได้

สเปน มีโอกาสบ้างในนาทีที่ 32 โรดรีโก้ ซานเชซ ได้ยิงด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ บอลไปแฉลบ ลีวาย โคลวิลล์ เฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

นาทีที่ 44 อังกฤษ มีโอกาสเฮ จากจังหวะฟรีคิกที่ โคล พัลเมอร์ เปิดจากฝั่งซ้ายมาให้ ลีวาย โคลวิลล์ โหม่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

แต่ สิงโตน้อย ก็มาออกนำ 1-0 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 4 จากฟรีคิกหน้าเขตโทษเยื้องไปทางขวา โคล พัลเมอร์ ปั่นด้วยเท้าซ้ายไปแฉลบหัวไหล่ เคอร์ติส โจนส์ ที่ยืนอยู่หน้ากำแพงเปลี่ยนทางเข้าประตูไปโดยผู้รักษาประตูของสเปนหมดสิทธิ์ป้องกัน และเป็นเครดิตการทำประตูของมิดฟิลด์ หงส์แดง ไปด้วย

จังหวะดีใจฉลองประตูนี้เอง ผู้เล่นของทั้งสองทีมกระทบกระทั่งกันจนเกือบเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว จากนั้นผู้ตัดสินก็แจกใบแดงไล่ทีมงานโค้ชของทั้งสองฝั่งออกไปฝั่งละคน โดยทาง อังกฤษ เป็น แอชลี่ย์ โคล

หมดครึ่งแรก อังกฤษ นำ สเปน 1-0

ครึ่งหลัง นาทีที่ 51 สเปน ต้องเฮเก้อ เมื่อ เซร์คิโอ โกเมซ เปิดฟรีคิกอย่างงามไปให้ อาเบล รูอีซ โหม่งคนเดียวแสกหน้า เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด เข้าประตูไป แต่ไลน์แมกยกธงล้ำหน้า ขณะที่วีเออาร์ก็เช็กเรียบร้อย

อังกฤษ เกือบหนีห่างในนาทีที่ 65 เมื่อ เคอร์ติส โจนส์ ไปแย่งบอลมาได้จากกลางสนามแล้วลากลุยเดี่ยวขึ้นมาคนเดียวแบบไม่จ่ายให้ใครก่อนยิงด้วยซ้ายในเขตโทษ ทว่า อาร์เนา เตนาส ยังพุ่งไปปัดมือเดียวไว้ได้

อีก 3 นาทีถัดมา สเปน น่าตีเสมอเหลือเกิน เซร์คิโอ โกเมซ ได้บอลหน้าเขตโทษเยื้องมาทางขวาแล้วเปิดด้วยเท้าซ้ายโค้งลึกไปเสาไกลถึง อาเบล รูอีซ ได้โหม่งคนเดียวเหน่งๆ หลุดกรอบเหลือเชื่อ

ช่วงท้ายเกม สเปน พยายามเดินหน้าบุกหนัก แต่ก็เกือบโดนฝังจากลูกสวนกลับในนาทีที่ 89 คาเมรอน อาเชอร์ ไหลเข้าเขตโทษฝั่งขวาให้ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ จับก่อนต้องบังคับยิงด้วยเท้าขวา อาร์เนา เตนาส เซฟไว้ได้ โนนี่ มาดูเอเก้ พยายามซ้ำมุมแคบ แต่ เตนาส ก็ยังมาควักบอลได้ที่เส้นทันเวลาอีก

เกมกำลังจะหมดเวลาอยู่แล้ว แต่ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 7 มีการเช็กวีเออาร์จุดโทษย้อนหลังเกิดขึ้นจากจังหวะที่ ลีวาย โคลวิลล์ ไปเตะใส่ อาเบล รูอีซ ผู้ตัดสินกลับมาชี้ให้เป็นลูกโทษ แต่ รูอีซ ทื่ลุกขึ้นมาสังหารยิงไปติดเซฟ เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด พุ่งถูกทาง ไอมาร์ โอรอซ ยิงซ้ำทันที แทร็ฟฟอร์ด ก็ยังใช้ขาเซฟไว้ได้อีก กาบรี เบยก้า ซ้ำดาบสามแบบไม่ถนัดก็ข้ามคานออกไป

ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 10 ก็มีปัญหาที่ข้างสนามอีก คราวนี้ผู้เล่นบนม้านั่งทั้งสองทีมต่างโดนคนละแดงได้แก่ มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์ และ อันโตนิโอ บลังโก้

จบเกมในนาทีที่ 90+12 อังกฤษ เอาชนะ สเปน 1-0 คว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้ครั้งแรกในรอบ 39 ปี โดย โจนส์ ทำประตูประวัติศาสตร์ แต่ แทร็ฟฟอร์ด คือฮีโร่ที่แท้จริง โดยที่ตลอดทั้งรายการตั้งแต่นัดแรกไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว เก็บไป 6 คลีนชีตรวด

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อังกฤษ : เจมส์ แทร็ฟฟอร์ด – เจมส์ การ์เนอร์, เทย์เลอร์ ฮาร์วู้ด-เบลลิส, ลีวาย โคลวิลล์, แม็กซ์ อารอนส์ – โคล พัลเมอร์, แองเจิล โกเมส, เคอร์ติส โจนส์, เอมิล สมิธ โรว์ – มอร์แกน กิ๊บบ์ส-ไวท์, แอนโธนี่ กอร์ดอน

สเปน : อาร์เนา เตนาส – บิคตอร์ โกเมซ, ไอตอร์ ปาเรเดส, จอน ปาเชโก้, ฆวน มีรานด้า – อันโตนิโอ บลังโก้, อเล็กซ์ บาเอน่า – โรดรีโก้ ซานเชซ, ออยอาน ซานเซ็ต, เซร์คิโอ โกเมซ – อาเบล รูอีซ

 

ที่มา

 

ติดตามอ่านข่าวกีฬาเพิ่มเติมได้ที่  jeremyhoyejewellery.com

สนับสนุนโดย ufabet369